โลหะ (Steel)

วัสดุที่มีคุณสมบัติทางกายภาพและเคมีที่เฉพาะเจาะจง เช่น มีความเป็นเงา นำไฟฟ้าและความร้อนได้ดี มีความแข็งแรงและเหนียว จึงสามารถนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมและวิศวกรรมต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย

คุณสมบัติทั่วไปของโลหะ:
1. การนำไฟฟ้าและความร้อน: โลหะมีคุณสมบัติในการนำไฟฟ้าและความร้อนได้ดี จึงถูกนำมาใช้ในสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ
2. ความแข็งแรงและทนทาน: โลหะมีความแข็งแรงทนต่อแรงดึงและแรงอัด จึงใช้ในงานโครงสร้างต่าง ๆ เช่น อาคารและสะพาน
3. การเป็นเงา: โลหะมีพื้นผิวที่เป็นเงา ทำให้เหมาะกับการนำไปใช้ในงานตกแต่งและอุตสาหกรรมเครื่องประดับ
4. ความยืดหยุ่นและความเหนียว: โลหะสามารถถูกขึ้นรูปด้วยการดัดหรือการทุบ โดยไม่แตกหักง่าย ทำให้สามารถขึ้นรูปเป็นชิ้นงานต่าง ๆ ได้ง่าย

การใช้งานของโลหะ ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม

เหล็กรูปพรรณ (Structural Steel) เป็นเหล็กที่ถูกขึ้นรูปให้มีลักษณะเฉพาะเพื่อนำไปใช้ในงานโครงสร้างอาคารหรือสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เช่น เสาคาน โครงหลังคา หรือสะพาน เนื่องจากเหล็กรูปพรรณมีความแข็งแรงสูง สามารถรับน้ำหนักและแรงต่าง ๆ ได้ดี จึงเป็นวัสดุสำคัญในงานก่อสร้าง เหล็กรูปพรรณมีหลายประเภทที่ใช้ตามความต้องการของงานก่อสร้างแต่ละประเภท ดังนี้:

ประเภทของเหล็กรูปพรรณที่จัดจำหน่ายทาง Happy

1. เหล็กฉาก (Angle Bars)
   - เป็นเหล็กที่มีลักษณะเป็นมุมฉาก รูปร่างตัว L เหมาะสำหรับใช้ในงานโครงสร้างเบา เช่น โครงคร่าว รั้ว และเสาโครงเหล็กทั่วไป

2. เหล็กกล่อง (Hollow Structural Section - HSS)
   - เหล็กกล่องมีทั้งแบบกล่องสี่เหลี่ยมและกล่องกลม เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการน้ำหนักเบา เช่น โครงหลังคา โครงสร้างตกแต่ง และงานก่อสร้างทั่วไป

4. เหล็กท่อกลม (Round Tubes)
   - เหล็กท่อกลมเป็นเหล็กที่มีรูปร่างเป็นท่อกลม เหมาะสำหรับการใช้ในงานที่ต้องการความสวยงามและการใช้งานทนทาน เช่น งานท่อส่งของเหลวหรือโครงสร้างรั้ว

5. เหล็กรางน้ำ (Channel Bars)  
   - เหล็กรูปตัว U หรือ C ใช้ในงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การทำคาน โครงหลังคา หรือโครงสร้างรองรับต่าง ๆ

คุณสมบัติเด่นของเหล็กรูปพรรณ:

1. ความแข็งแรงและทนทานสูง
   - เหล็กรูปพรรณมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงดึง แรงกด และแรงบิด ทำให้เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความปลอดภัยและรับน้ำหนักมาก

2. การขึ้นรูปง่าย
   - เหล็กรูปพรรณสามารถขึ้นรูปในขนาดและรูปทรงต่าง ๆ ได้ตามความต้องการของงานก่อสร้าง ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการออกแบบโครงสร้าง

3. ความทนทานต่อสภาพอากาศ
   - หากมีการเคลือบป้องกันสนิมหรือชุบกัลวาไนซ์ เหล็กรูปพรรณจะมีความทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้ใช้งานกลางแจ้งได้ดี

4. การติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
   - เหล็กรูปพรรณสามารถประกอบและเชื่อมต่อกันได้ง่าย ช่วยให้การก่อสร้างเสร็จรวดเร็วขึ้นเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ

การใช้งานของเหล็กรูปพรรณ:

- งานโครงสร้างอาคาร: เหล็กรูปพรรณถูกใช้ในงานโครงสร้างหลักของอาคาร เช่น เสาและคาน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคง
- งานโครงหลังคา: เหล็กรูปพรรณที่มีน้ำหนักเบา เช่น เหล็กกล่อง หรือเหล็กฉาก มักถูกนำมาใช้ในงานโครงหลังคาและโครงสร้างที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก
- งานท่อและรั้ว: เหล็กท่อกลมและเหล็กกล่องสามารถใช้ในงานท่อส่งของเหลวหรือการสร้างรั้วที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานต่อสภาพอากาศ

เหล็กรูปพรรณจึงเป็นวัสดุที่ขาดไม่ได้ในงานก่อสร้างที่ต้องการความแข็งแรงทนทานและความปลอดภัยสูง